เช่นเดียวกับรุ่นก่อน โททัลวอร์: ทรีคิงดัมส์ เป็นเกมกลยุทธ์เรียลไทม์กลยุทธ์ผลัดกันเล่น ซึ่งมีฉากในยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220–280) ผู้เล่นควบคุมหนึ่งในสิบสองก๊กของเกม ที่ซึ่งจะต้องกำจัดก๊กอื่น ๆ รวมประเทศจีนและกลายเป็นผู้ปกครองขั้นสูงสุด[2] ก๊กเหล่านี้นำโดยขุนศึก รวมไปถึงโจโฉ, เล่าปี่ และซุนเกี๋ยน[3] ในยุทธการการล้อม ผู้เล่นจะบัญชาการทั้งหน่วยทหารราบและทหารม้า ทุกหน่วยที่โดดเด่นในเกมแบ่งออกเป็นข้าราชบริพารต่าง ๆ พร้อมกับได้รับการนำโดยแม่ทัพที่ทรงอำนาจ ผู้เล่นสามารถเคลื่อนกำลังพลของสามแม่ทัพเข้าสู่สนามรบได้ในคราวเดียวพร้อมกับสามกองหนุน และผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงหน่วยที่กล่าวว่าแม่ทัพสามารถรับสมัคร[4]

ผู้เล่นชนะการรบล้อมเมื่อแม่ทัพฝ่ายศัตรูทั้งหมดถูกสังหารหรือจุดศูนย์กลางของเมืองถูกเข้ายึด แม่ทัพเหล่านี้ ซึ่งสามารถสั่งแยกจากกองทัพ มีการครอบครองสมบัติพิเศษ ที่สามารถปล้นสะดมเมื่อพวกเขาถูกสังหาร ตัวอย่างเช่น สามารถยึดม้าเซ็กเธาว์ของลิโป้ และนำไปใช้โดยแม่ทัพคนอื่น ๆ แม่ทัพสามารถมีส่วนร่วมในการต่อสู้ตัวต่อตัว ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อใครคนหนึ่งตายหรือหนีไป แม่ทัพแต่ละคนมีระดับและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน มีการมอบความดีความชอบให้แก่หน่วยพวกเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม[5] ทีมงานนำเสนอแนวคิดของ "กวนซี่" ในเกม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะสร้างการเชื่อมต่อทางสังคมและความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ การดูแนวคิดเช่น "ภาระผูกพัน, การแลกเปลี่ยน และความน่าเชื่อถือ" ในฐานะคุณธรรมที่สำคัญ แม่ทัพเหล่านี้มีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์และปรารถนาที่ผู้เล่นจะต้องตอบสนอง หากความต้องการของพวกเขาไม่ได้รับการจัดอันดับ ความสุขของพวกเขาจะลดลง และสิ่งนี้อาจนำไปสู่ผลสะท้อนต่าง ๆ สำหรับผู้เล่น[6] ต่างจากเกมโททัลวอร์ก่อนหน้าซึ่งตัวละครไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กัน แม่ทัพที่โดดเด่นในเกมต่างสร้างสัมพันธ์กับตัวละครที่พวกเขาพบตลอดการรบ นี่เป็นการเพิ่มระดับกลยุทธ์ให้กับเกม ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องเข้าใจแม่ทัพเหล่านี้ก่อนตัดสินใจใด ๆ[6]

เกมนี้มีสองโหมด โดยโหมดแรก "โรมานซ์" (Romance) ได้อิงจากนวนิยายสามก๊ก ที่ซึ่งบรรดาแม่ทัพมีความแข็งแกร่งเกือบเหนือมนุษย์ ส่วนโหมดอื่นอย่าง "เรคคอร์ด" (Records) ได้อิงจากจดหมายเหตุสามก๊ก โดยได้นำเสนอเวอร์ชันที่แท้จริงตามประวัติศาสตร์มากกว่า ในโหมดเรคคอร์ดนี้ บรรดานายพลถูกถอดเขี้ยวเล็บออกและพวกเขาไม่สามารถบัญชาการเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนเครื่องใช้สอยบางอย่างในเกมเพื่อให้น่าเชื่อถือตามประวัติศาสตร์[7]